9เหตุผลทำไม?บุญยังไม่เกิดกับท่าน
9เหตุผลทำไม?บุญยังไม่เกิดกับท่าน ท่านเคยสงสัยไหมครับ? ว่าทำไม? กระผมชัยเสริฐกิ่งเพชรมีคำตอบให้ท่านครับ ดังนี้
ข้อ 1 ทำบุญเมื่อเกิดทุกข์แล้ว
เช่น สามีทิ้งเลยซื้อของไปถวายวัดเพื่อให้เขากลับมา หัวข้อนี้การทำบุญแบบนี้เป็นข้อดีที่คนไม่เคยรู้จักธรรมะจะได้รู้จักธรรมะเมื่อรู้ว่าทุกข์นั้นมีจริง สุขนั้นไม่จีรังยั้งยืน ไม่เที่ยง
ฉะนั้นเมื่อรู้จักทุกข์แล้วพยายามใช้สติตามเท่าทันอารมณ์เพื่อหาพระพุทธเจ้าให้เจอ ดังคำพระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”
ฉะนั้นเมื่อเราเห็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเราก็เสมือนว่าเราเห็นธรรมะของพระพุทธเจ้า เพราะทุกข์นี้แหละคือธรรมะที่พุทธเจ้าค้นพบ
เมื่อมีทุกข์แล้วเราควร เห็นทุกข์ ไม่ใช่เป็นทุกข์
ดังนั้นการทำบุญหลังจากทุกข์ก็มีข้อดี แต่กว่าจะได้รับอานิสงส์อาจจะช้าหน่อย เพราะหากเราไม่เคยทำบุญและปฏิบัติสมาธิภาวนา เมื่อเราเจอความทุกข์เราจะปล่อยวางยาก ดังนั้นเราควรทำบุญให้เป็นกิจวัตรเพื่อได้อานิสงส์จากบุญก่อนหน้ามาช่วยให้เรารอดพ้นจากวิบากกรรมที่จะเกิดขึ้น หรือบรรเทากรรมที่เกิดขึ้นครับ
ข้อ 2 จิตไม่บริสุทธิ์ก่อนการให้ทาน
เช่น ก่อนทำบุญมีเจตนาต้องการถูกหวย จึงทำบุญโดยซื้อสังฆทานไปถวายวัดเพื่อให้ได้โชคลาภมา จิตใจหม่นหมอง เจตนาอยากได้ อยากมี อยากขโมยลักทรัพย์ อยากเป็นชู้กับคู่คนอื่น อยากได้มากกว่าที่ให้ ทำบุญเลยไม่ได้รับอานิสงส์
ข้อ 3 จิตไม่บริสุทธิ์ขณะกำลังให้ทาน
เช่น ขณะทำบุญมีจิตใจหม่นหมอง คิดแต่เรื่องอยากได้ อยากมี อยากขโมยลักทรัพย์ อยากเป็นชู้กับคู่คนอื่น อยากได้มากกว่าที่ให้ ขณะทำบุญเลยไม่ได้รับอานิสงส์
ข้อ 4 จิตไม่บริสุทธิ์หลังการให้ทาน
เช่น เมื่อเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้ตัวเองเศร้าเสียใจ
จิตคิดน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำบุญเยอะทำไมต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือทำบุญเยอะทำไมได้ลาภผลมาเท่านี้ไม่คุ้มกับบุญที่ทำ จิตใจย่อมตกต่ำไม่เป็นกุศลเพราะไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาว่ากุศลมีจริง
ข้อ 5 ผู้รับไม่บริสุทธิ์
เช่น การทำบุญกับผู้มีศีลบริสุทธิ์ ย่อมมีอานิสงส์แรงกว่าการทำบุญกับผู้มีศีลน้อย เพราะการทำบุญกับผู้มีศีลและเป็นคนดีเป็นเสมือนการช่วยเขาให้ทำความดีเราย่อมได้รับอานิสงส์นั้นมากตามไปด้วยครับ การช่วยเหลือคนชั่วก็เหมือนกับช่วยเหลือเขาทำบาปเช่นกัน
ข้อ 6 ผู้ให้ไม่บริสุทธิ์
เช่น ไม่มีศีล 5 ไม่มีสมาธิ และไม่รักษาศีลไม่ฟังธรรม เมื่อให้ทานแล้วยังกลัวและกังวลในจิตใจว่าจะได้คืนไหม
เป็นบุคคลที่ยังประกอบอาชีพผิดกฎหมาย กายวาจาใจยังไม่บริสุทธิ์พอแล้วนำของไปให้เขาอานิสงส์นั้นยิ่งน้อยแทบมองไม่เห็น
ข้อ 7 ให้สิ่งไม่เป็นมงคล
เช่น บริจาคเงินที่ฉ้อโกงคนอื่นมาให้วัด ให้เหล้า ยาบ้ายาเสพย์ติด ให้สินบน ให้ความช่วยเหลือเพื่อนสนิททำร้ายคนอื่น ให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานแล้วยังเอาเขาไปนินทาว่าเรื่องแค่นี้ก็ทำเองไม่เป็นหรือให้ความช่วยเหลือทางการเงินเขาแล้วคิดดอกเบี้ยเขาแพง
ข้อ 8 ไม่ละบาป
เช่น ยังประกอบอาชีพที่ไม่สุจริต ฆ่าคน ปล้นจี้ ดื่มเหล้า พูดโกหก ผลของบุญเก่าย่อมส่งถึงท่านได้น้อย เพราะกรรมใหม่มาบดบัง
ดังคำกล่าวของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง กล่าวไว้ว่า การทำบุญแล้วไม่ยอมละบาปจะก่อประโยชน์อะไร เป็นความจริงทุกประการ
ข้อ 9 บุญจากกรรมฐานให้ผลสูงสุด
หมั่นกำหนดสติรู้อารมณ์ และความทุกข์ที่เกิด
การจะตัดวิบากกรรมในอดีตชาติหรือแม้กระทั่งกรรมปัจจุบัน นั้นเราจะตัดได้เมื่อเราฝึกสติและกำหนดรู้กายวาจาใจเสมอเพื่อให้ จิตปล่อยวาง นี่แหละคือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ครับ
สรุปคือหากจะแบ่งหลักๆจริงๆ
การสร้างบุญบารมี ต้องมี 3 องค์ประกอบ
องค์ประกอบข้อที่ ๑ วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์
องค์ประกอบข้อที่ ๒ เจตนาในการสร้างทานต้องบริสุทธิ์
องค์ประกอบข้อที่ ๓ เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ (ผู้รับต้องบริสุทธิ์)
โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เก้าข้อที่กระผมกล่าวไป หากท่านนำเก้าข้อนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของท่าน จะเป็นวิธีการทำบุญที่ถูกวิธี เห็นไหมละครับการทำบุญจริงๆคือแค่ กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ก็เพียงพอแล้ว ในเก้าข้อนี้ท่านมีสักข้อรึยังครับ? หากไม่มีลองทำตามวิธีการทั้งเก้านี้ครับแล้วท่านจะรู้ว่าบุญกุศลมีจริง
ขอบคุณครับ
ชัยเสริฐกิ่งเพชร
#แชร์ส่งต่อให้เพื่อนได้ครับ
#สนใจทำนายดวงชะตาติดต่อได้ช่องทางอินบล็อก
#เฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech
#เพจ https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech9/
#กลุ่ม กลุ่มชัยเสริฐกิ่งเพชรโหราศาตร์
#ไอดีไลน์; worayano
#web http://chaiyasertkingpech.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น