ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เหตุใดจึงควรหยุดใช้ชีวิตอิงกับนาฬิกาโลก ตอนที่ 2

เหตุใดจึงควรหยุดใช้ชีวิตอิงกับนาฬิกาโลก ตอนที่ 2


           จากบทความเรื่อง เหตุใดจึงควรหยุดใช้ชีวิตอิงกับนาฬิกาโลก ตอนที่ 1 เราไม่ควรใช้ชีวิตเทียบอิงกับเวลาจากนาฬิกาโลก  ควรใช้ชีวิตเทียบอิงกับ สิ่งที่ทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า เวทนา (ความรู้สึก)




            ความรู้สึกในทางพุทธศาสนา แบ่งออกเป็น 3 อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็น สุขเวทนา ทุกขเวทนา และอทุกขมสุขเวทนา 

            ในอารมณ์ความรู้สึก 3 อย่างดังข้างต้น เราควรเลือกความรู้สึกที่เรียกว่า สุขเวทนา มาเป็นอารมณ์ของใจเพื่อให้ชีวิตของเรามีแต่ความสุข ทั้งการทำงานหรือดำเนินการทำกิจกรรมอันใดในชีวิตให้ลุล่วงไปด้วยดี พร้อมทั้งมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

            การที่เราจะนำความรู้สึกที่ เรียกว่า สุขเวทนา มาใช้ในชีวิตประวันนั้น มีวิธีการอยู่ 5 ประการ

1. นึกถึงเรื่องราวดี ๆ หลังตื่นนอนตอนเช้าว่าเมื่อวานที่ผ่านมาเราได้ทำสิ่งดีๆไปบ้าง หรือเราได้รับสิ่งดีๆอะไรบ้าง อาจจะจดบันทึกใส่กระดาษเป็นสมุดบันทึดไว้อ่านก็ได้ เช่น เรื่องง่ายๆ แม้แต่เราให้รอยยิ้ม ให้อภัย ให้ความรัก ให้สิ่งของ ให้อารมณ์ขำขันกับคนอื่น นั่นก็คือสิ่งดีๆ จะนำพาเราไปสู่ ความรู้สึกที่เรียกว่า สุขเวทนา

2. โปรแกรมจิตใต้สำนึก ทุกๆวัน โดยการพูดย้ำเตือนกับตัวเองทุกๆเช้า และ ก่อนเข้านอนหน้ากระจก ได้แก่ "ผมมีความความสุข" หรือ "ผมมีเพื่อนที่ดี" พร้อมทั้งมโนภาพขึ้นในจิตใจตามประโยคย้ำเตือนที่พูดทุกครั้ง

3. มีสติ กำหนดรู้อารมณ์ความคิดและการเคลื่อนไหวของกายเสมอ เพื่อนำพาสติตามเท่าทัน ทุกขณะจิต เมื่อนำสติกำหนดรู้ใจจนถึงระดับหนึ่ง เราจะเจออารมณ์ 3 ระดับ คือ สุข ทุกข์ และไม่สุขไม่ทุกข์ เมื่อกำหนดไปเรื่อยๆ เราจะสามารถเลือกนำเอาอารมณ์สุข หรือสุขเวทนา มาใช้ก่อให้เกิดประโยชน์กับชีวิตของเราได้

4. นั่งสมาธิและอ่านธรรมะหรือข้อความดีๆ เพื่อเติมเต็มความสุขเข้าจิตใจ อย่างน้อยวันละ 15-30 นาที
            
5.รู้จักให้ ได้แก่ ให้อภัย ให้ความรัก ให้สิ่งของ ให้ความรู้สึกดีๆ กับคนรอบๆตัวเราทุกๆคน  จะเป็นพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่า สุขเวทนา ก่อบังเกิดขึ้นภายในจิตใจอย่างแท้จริง


         ทั้ง 5 ประการที่กล่าวมานี้ เป็นวิธีการที่จะทำให้เรานำ สุขเวทนา มาใช้ดำเนินชีวิตได้ดี ส่งผลให้เราใช้เวลาที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าอย่างแท้จริง           




โปรดรออ่าน.... บทความดีๆ ผมอัพเดตทุกวัน วันละ 2 - 3 บทความ ทุกท่านที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านได้



เขียนโดย  ชัยเสริฐกิ่งเพชร

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ท้อแท้กับชีวิตนะครับ


        ติดตามบทความที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตทุกๆท่านได้ที่ 
อินบล็อกเฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech
เพจเฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech9
    
เว็บบล๊อค: http://chaiyasertkingpech.blogspot.com/

ไอดี line: worayano







    

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เหตุใดจึงควรหยุดใช้ชีวิตอิงกับนาฬิกาโลก ตอนที่ 1


เหตุใดจึงควรหยุดใช้ชีวิตเทียบอิงกับนาฬิกาโลก ตอนที่ 1



"เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า เมื่อใช้แล้วจะเหลือน้อยลงทุกที"
"ดังนั้นการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดถือว่าเป็นกำไรของชีวิต"


ในกิจวัตรประจำของเราทุกคน ไม่ว่าจะทำกิจกรรมการงานใด ต้องใช้เวลาประกอบด้วยเสมอ
           
            ผมจึงมีกฎในการใช้เวลาให้คุ้มค่า เมื่อดำเนินการทำกิจกรรมการงานใด ห้ามใช้เวลาอิงกับนาฬิกาโลก เพราะจะทำให้เรา เสียโอกาสต่างๆมากมาย
             เพราะนาฬิกาโลกสร้างจาก การหมุนของโลก 1 รอบ 24 ชม.
             ดังนั้น เราจึงควรใช้เวลาอิงกับสิ่งที่พุทธศาสนา เรียกว่า เวทนา(แปลว่า ความรู้สึก) ซึ่งทางพุทธศาสนาแบ่ง เวทนา หรือ ความรู้สึกออกเป็น 3 อย่าง ดังนี้


1.สุขเวทนา : หรือความรู้สึกที่เป็นสุข ได้แก่ อารมณ์ดี ดีใจ มีความสุข พอใจ รัก ยินดี เป็นต้น เมื่อมีความรู้สึกที่เรียกว่า สุขเวทนา  หากเราทำกิจกรรมการงานใด ผลของงานนั้นย่อมได้ผลลัพธ์ออกมาดี และรวดเร็ว เหมือนกับว่าเวลาเดินไปรวดเร็ว แต่ผลของงานจะออกมามีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล มากกว่าการที่เราเทียบอิงกับนาฬิกาโลก


2.ทุกขเวทนา : หรือ ความรู้สึกที่เป็นทุกข์ ได้แก่ เสียใจ กังวล อึดอัด โกรธ เป็นต้น หากเราทำกิจกรรมการงานใด เหมือนกับว่าเวลาเดินไปช้า เมื่อไหร่จะเสร็จสักที ส่งผลทำให้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และขาด จิตตะ(หรือความตั้งมั่นแห่งจิต) ทำให้งานสำเร็จลุล่วงช้า หรือออกมาไม่ดีในที่สุด


3.อทุกขมสุขเวทนา : หรือความรู้สึกที่ไม่สุขไม่ทุกข์ เช่น สงสัย ลังเล ยึดติด เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราทำกิจกรรมการงานใด ด้วยความลังเลสงสัยอยู่ หรือยึดติดกับความคิดเดิมๆ ทำไปโดยไม่พิจารณาไตร่ตรอง ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร จะทำให้เราใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์

ดังนั้น เราควรปรับอารมณ์ให้ได้ สุขเวทนา ทุกขณะจิตเพื่อใช้เวลาอย่างคุ้มค่า


โปรดรออ่าน.... 

เหตุใดจึงควรหยุดใช้ชีวิตเทียบอิงกับนาฬิกาโลก ตอนที่ 2 เพราะผมเขียนขึ้นทุกวันทุกท่านที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านได้



เขียนโดย  ชัยเสริฐกิ่งเพรช

        ติดตามบทความที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตทุกๆท่านได้ที่
อินบล็อกเฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech
เพจเฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech9
    
เว็บบล๊อค: http://chaiyasertkingpech.blogspot.com/
ไอดี line: worayano













วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

กฏ 3 ข้อ เพื่อพิชิตเป้าหมาย

บางคนบอกว่า อยากมี อยากรวย อยากประสบความสำเร็จ
บางคนบอกต้องการเท่านี้ แล้วถามใจตัวเองหรือยังว่า ตัวเองสุขอยู่กับปัจจุบันจริงไหม?

ผมมีกฎ 3 ข้อ เพื่อพิชิตเป้าหมาย และให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการอย่างรวดเร็ว





1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน : ถามตัวเองก่อนว่าปัจจุบันเรามีเป้าหมายแล้วหรือยัง ชัดเจนไหม มองเห็นเป็นปริมาณ หรือ เป็นรูปธรรมไหม พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน

              เช่น อยากมีบ้าน 1 หลัง ราคา 10 ล้าน ภายใน 5 ปี 
                      ไม่ใช่บอกว่า อยากมีบ้านหลังใหญ่โต เฉยๆ โดยไม่บอก ราคา ปริมาณ และเวลา 
เพราะจะส่งผลให้จิตใต้สำนึกสับสน และขับเคลื่อนให้เราไปถึงเป้าหมายไม่ได้ ดังนั้นการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้เรามีวิธีการนำไปสู่เป้าหมายที่ชัดเจนด้วย


2.โปรแกรมจิตใต้สำนึกทุกวันในเวลาว่าง : ทำได้โดย เช่น การสร้างมโนภาพขึ้นในสมอง การพูดย้ำเตือนกับตัวเองถึงเป้าหมายนั้นๆ เหมือนกับว่าเราได้รับมาแล้ว เพื่อให้จิตใต้สำนึกที่มีพลังอำนาจมหาศาลเชื่อ และกำหนดวิธีการที่จะให้ได้รับเป้าหมายมาได้อย่างรวดเร็ว การโปรแกรมจิตควรทำช่วงตอนเช้าตื่นนอน ก่อนนอนหลับ
             เช่น ถ้าอยากมีบ้าน 1 หลัง ราคา 10 ล้าน ควรพูดย้ำกับตัวเองว่า ผมมีบ้านราคา 10 ล้าน 1 หลัง และมโนภาพขึ้นในสมองว่าตัวเองมีบ้าน เพื่อให้จิตใต้สำนึกเชื่อ 



3.พิจารณาไตร่ตรอง(วิมังสา) :  การพิจารณา ตรวจสอบ วิธีการหรือผลลัพธ์ที่เราทำในแต่ละวัน ว่าส่งผลต่อเป้าหมายที่เราวางไว้หรือไม่ ถ้าไม่ส่งผลต่อเป้าหมายที่วางไว้ ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการนั้นๆ ไปเรื่อยๆ ควรใช้เวลาวันละ 15 -30 นาที นั่งสมาธิเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง ช่วงนั้นจิตใต้สำนึกจะมีพลังงานมากขึ้น เพื่อให้การพิจารณาวิธีการและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน พร้อมทั้งทำให้การโปรแกรมจิตใต้สำนึกมีประสิทธิภาพสูง




                                                                                       เขียนโดย  ชัยเสริฐกิ่งเพรช
     

        ติดตามบทความที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตทุกๆท่านได้ที่

‪#‎เฟสบุ๊ค‬ https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech 
‪#‎เพจ‬ https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech9/
‪#‎กลุ่ม‬ กลุ่มชัยเสริฐกิ่งเพชรโหราศาตร์
‪#‎ไอดีไลน์‬ ; worayano
‪#‎web‬ http://chaiyasertkingpech.blogspot.com










3 อย่างที่ชีวิตขาดไม่ได้

คนบางคนเกิดมาอาจเคยถามชีวิตว่าเกิดมาทำไม ?
อะไรคือคำตอบ? อะไรคือความหมายของชีวิต? ความสุข คืออะไร?

                                           








พื้นฐาน 3 อย่างที่ชีวิตขาดไม่ได้ มีดังนี้

1. สติ : ที่ใดมีสติที่นั่นมีแต่ความสุข แค่มีสติเราก็จะสามารถควบความทุกอย่างได้ แม้กระทั่งความทุกข์ที่เกิดขึ้นภายในหัวใจ แค่กำหนดรู้อารมณ์ว่าทุกข์ ความทุกข์นั้นก็ดับไป


2. ความรัก  :  ความรักในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความรักในหนุ่มสาวอย่างเดียว ยังหมายถึง ความรักให้พ่อ แม่ ญาติ และเพื่อนๆรอบตัวเรา เมื่อมีความรักจะทำให้จิตใจเรามีศรัธาและมีแรงผลักดันต่อสู้กับอุปสรรคทุกอย่าง   และความรักในหลักอิทธิบาท 4 (หลักธรรมในการทำงาน) เรียกว่า ฉันทะ

                     เมื่อไม่มีความรักในงานที่ทำ ข้ออื่น ๆ อีก 3 ข้อ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น วิริยะ(ขยัน หมั่นเพียร) จิตตะ(ตั้งมั่น ตังใจ) วิมังสา(พิจารณาไตร่ตรอง) 

                      ดังนั้นหากหัวใจใครขาดความรัก ทุกๆอย่างในชีวิตก็จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ


3.การให้ : ให้ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการให้สิ่งของเพียงอย่างเดียว ยังหมายถึงการให้อภัย ให้ความเมตตา ให้ความรัก กับทุกๆ คน ทุกๆ สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา จะทำให้จิตใจเรามีความสุข ความปิติ เอิบอิ่มในหัวใจ นี่แหละคือความสุขที่แท้จริงของชีวิต 

          โปรดติดตามบทความหน้าครับบทความดีๆให้จิตใจมีความสุขและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต


  
เขียนโดย ชัยประเสริฐกิ่งเพรช

ติดตามบทความดีๆ ได้ที่
‪#‎สนใจทำนายดวงชะตาติดต่อได้ช่องทางอินบล็อก‬
‪#‎เฟสบุ๊ค‬ https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech 
‪#‎เพจ‬ https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech9/
‪#‎กลุ่ม‬ กลุ่มชัยเสริฐกิ่งเพชรโหราศาตร์
‪#‎ไอดีไลน์‬ ; worayano
‪#‎web‬ http://chaiyasertkingpech.blogspot.com