ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พระคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ หรือบูชาพระประจำวันเกิด



  พระคาถาอิติปิโส  ๘  ทิศ หรือบูชาพระประจำวันเกิด

พระเจ้าปันเต้า วัดพันเตา เชียงใหม่


 พระจันทร์ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา  ให้ภาวนา 15 จบ 


พระอังคาร ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง  ให้ภาวนา 8 จบ


พระพุธ  ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท       ให้ภาวนา 17 จบ


พระเสาร์  โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ         ให้ภาวนา 10 จบ


พระพฤหัสบดี ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ    ให้ภาวนา 19 จบ


พระราหู(พุธกลางคืน) คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ         ให้ภาวนา 12 จบ


พระศุกร์ วา โธ โน อะ มะ มะ วา          ให้ภาวนา 21 จบ


พระอาทิตย์ อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ      ให้ภาวนา 6 จบ


 สิทธิการิยะ ฝอยของพระอิติปิโส แปดด้านแปดทิศ มีฤทธิ์อเนกประการ ป้องกันสรรพภัย คุ้มครองได้ดังบัญหาร อุปเท่ห์ของอาจารย์ เหลือประมาณท่วมหลังช้าง แม้นจะยาตราไป ณ ทิศใดทุกถิ่นทาง จงสวดคาถาอ้าง ตามทิศาทางจะครรไล หรือไม่ก็เสกน้ำ คาถาร่ำอย่านอนใจ น้ำมนต์นั่นแลไซร้ ประพรมให้ทั่วกายา ทั้งสัตว์พาหนะ ก็ควรประให้จึงคลา กันเหตุเภทภัยยา ไม่มีมาและผ้องพาน คุ้มได้สารพัด ทั้งสรรพสัตว์แลชนพาล บ่อาจมารุกราน ให้รำคาญแลเคืองใจ ถึงหากถูกผีหลวง สิ้นทั้งปวงไม่เป็นไร ไปค้ามีกำไร คงจะไม่ขาดทุนเอย 

บทหนึ่งชื่อกระทู้เจ็ดแบก อาจารย์จำแนกไว้บูชา เสกข้าวกินทุกวัน อาจป้องกันเครื่องศาสตรา อนึ่งเล่าภาวนา แล้วหันหน้าสู่คชสาร อาจเข้าหักงวงคชา ด้วยพลาอันห้าวหาญ มีกำลังเหลือประมาณ ยิ่งช้างสารอันตกมัน พระฤๅษีทั้งเจ็ดองค์ ท่านดำรงอยู่ทิศนั้น เมื่อจักอภิวันท์ หันพักตร์นั้นทางทิศบูรพา

บทเจริญกรรมฐานใช้ท่องหลังสวดมนต์ครับ

ใช้ท่องหลังสวดมนต์ครับ

บทเจริญกรรมฐาน

ข้าพเจ้าจะเจริญพระกรรมฐานภาวนา   บูชาคุณพระรัตนด้วยอุดม
สร้างสมทาสบารมีธรรม                           บำเพ็ญอิทธิบาททั้งสี่
บ่มอินทรีย์ให้แก่โดยการ                           สังหารนิวรณ์ห้าให้หาย
สืบสายวิตกวิจารณ์ปิติ                           ศิริรวมสุขาวกัคคะตา
ต่อมาให้ถึงฌานสี่                                   พร้อมด้วยวลีทั้งห้า
เจริญมรรคาพระอริยะสมังคี                   ล้างธุลีกิเลสให้สูญ
ตัดมูลอาสาวะอนุสัย                                   ห่างไกลสังโยชน์ทั้งปวง
ล่วงถึงประโยชน์ยิ่งใหญ่                           ขอคุณพระรัตนตรัย
คุณไท้ทิราชเทวา                                   คุณมารดาบิดาครูอาจารย์
คุณความดีทุก ๆ ประการ                            จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้า
บรรเทาทุกข์ร้อนให้เหือดหาย                    ทำลายมารห้าให้พินาศ
ปราศจากพยัญตรายนิรันดร์                    เกษมสันต์ประสบสิ่งเสมอใจ
สมดั่งมุ่งหมาย ณ การบัดนี้เทอญ  

9เหตุผลทำไม?บุญยังไม่เกิดกับท่าน



9เหตุผลทำไม?บุญยังไม่เกิดกับท่าน ท่านเคยสงสัยไหมครับ? ว่าทำไม? กระผมชัยเสริฐกิ่งเพชรมีคำตอบให้ท่านครับ ดังนี้ 




ข้อ 1 ทำบุญเมื่อเกิดทุกข์แล้ว 

เช่น สามีทิ้งเลยซื้อของไปถวายวัดเพื่อให้เขากลับมา หัวข้อนี้การทำบุญแบบนี้เป็นข้อดีที่คนไม่เคยรู้จักธรรมะจะได้รู้จักธรรมะเมื่อรู้ว่าทุกข์นั้นมีจริง สุขนั้นไม่จีรังยั้งยืน ไม่เที่ยง 
ฉะนั้นเมื่อรู้จักทุกข์แล้วพยายามใช้สติตามเท่าทันอารมณ์เพื่อหาพระพุทธเจ้าให้เจอ ดังคำพระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” 
ฉะนั้นเมื่อเราเห็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเราก็เสมือนว่าเราเห็นธรรมะของพระพุทธเจ้า เพราะทุกข์นี้แหละคือธรรมะที่พุทธเจ้าค้นพบ
เมื่อมีทุกข์แล้วเราควร เห็นทุกข์ ไม่ใช่เป็นทุกข์
ดังนั้นการทำบุญหลังจากทุกข์ก็มีข้อดี แต่กว่าจะได้รับอานิสงส์อาจจะช้าหน่อย เพราะหากเราไม่เคยทำบุญและปฏิบัติสมาธิภาวนา เมื่อเราเจอความทุกข์เราจะปล่อยวางยาก ดังนั้นเราควรทำบุญให้เป็นกิจวัตรเพื่อได้อานิสงส์จากบุญก่อนหน้ามาช่วยให้เรารอดพ้นจากวิบากกรรมที่จะเกิดขึ้น หรือบรรเทากรรมที่เกิดขึ้นครับ


 ข้อ 2 จิตไม่บริสุทธิ์ก่อนการให้ทาน

 เช่น ก่อนทำบุญมีเจตนาต้องการถูกหวย จึงทำบุญโดยซื้อสังฆทานไปถวายวัดเพื่อให้ได้โชคลาภมา จิตใจหม่นหมอง เจตนาอยากได้ อยากมี อยากขโมยลักทรัพย์ อยากเป็นชู้กับคู่คนอื่น อยากได้มากกว่าที่ให้ ทำบุญเลยไม่ได้รับอานิสงส์

 ข้อ 3 จิตไม่บริสุทธิ์ขณะกำลังให้ทาน

 เช่น ขณะทำบุญมีจิตใจหม่นหมอง คิดแต่เรื่องอยากได้ อยากมี อยากขโมยลักทรัพย์ อยากเป็นชู้กับคู่คนอื่น อยากได้มากกว่าที่ให้ ขณะทำบุญเลยไม่ได้รับอานิสงส์


 ข้อ 4 จิตไม่บริสุทธิ์หลังการให้ทาน

 เช่น เมื่อเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้ตัวเองเศร้าเสียใจ 
จิตคิดน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำบุญเยอะทำไมต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือทำบุญเยอะทำไมได้ลาภผลมาเท่านี้ไม่คุ้มกับบุญที่ทำ จิตใจย่อมตกต่ำไม่เป็นกุศลเพราะไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาว่ากุศลมีจริง

ข้อ 5 ผู้รับไม่บริสุทธิ์

เช่น การทำบุญกับผู้มีศีลบริสุทธิ์ ย่อมมีอานิสงส์แรงกว่าการทำบุญกับผู้มีศีลน้อย เพราะการทำบุญกับผู้มีศีลและเป็นคนดีเป็นเสมือนการช่วยเขาให้ทำความดีเราย่อมได้รับอานิสงส์นั้นมากตามไปด้วยครับ การช่วยเหลือคนชั่วก็เหมือนกับช่วยเหลือเขาทำบาปเช่นกั

 ข้อ 6 ผู้ให้ไม่บริสุทธิ์

เช่น ไม่มีศีล 5 ไม่มีสมาธิ และไม่รักษาศีลไม่ฟังธรรม เมื่อให้ทานแล้วยังกลัวและกังวลในจิตใจว่าจะได้คืนไหม
เป็นบุคคลที่ยังประกอบอาชีพผิดกฎหมาย กายวาจาใจยังไม่บริสุทธิ์พอแล้วนำของไปให้เขาอานิสงส์นั้นยิ่งน้อยแทบมองไม่เห็น

 ข้อ 7 ให้สิ่งไม่เป็นมงคล 

เช่น บริจาคเงินที่ฉ้อโกงคนอื่นมาให้วัด ให้เหล้า ยาบ้ายาเสพย์ติด ให้สินบน ให้ความช่วยเหลือเพื่อนสนิททำร้ายคนอื่น ให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานแล้วยังเอาเขาไปนินทาว่าเรื่องแค่นี้ก็ทำเองไม่เป็นหรือให้ความช่วยเหลือทางการเงินเขาแล้วคิดดอกเบี้ยเขาแพง

 ข้อ 8 ไม่ละบาป 

เช่น ยังประกอบอาชีพที่ไม่สุจริต ฆ่าคน ปล้นจี้ ดื่มเหล้า พูดโกหก ผลของบุญเก่าย่อมส่งถึงท่านได้น้อย เพราะกรรมใหม่มาบดบัง
ดังคำกล่าวของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง กล่าวไว้ว่า การทำบุญแล้วไม่ยอมละบาปจะก่อประโยชน์อะไร เป็นความจริงทุกประการ

ข้อ 9 บุญจากกรรมฐานให้ผลสูงสุด

หมั่นกำหนดสติรู้อารมณ์ และความทุกข์ที่เกิด
การจะตัดวิบากกรรมในอดีตชาติหรือแม้กระทั่งกรรมปัจจุบัน นั้นเราจะตัดได้เมื่อเราฝึกสติและกำหนดรู้กายวาจาใจเสมอเพื่อให้ จิตปล่อยวาง นี่แหละคือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ครับ
สรุปคือหากจะแบ่งหลักๆจริงๆ 

การสร้างบุญบารมี ต้องมี 3 องค์ประกอบ

องค์ประกอบข้อที่ ๑ วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ
องค์ประกอบข้อที่ ๒ เจตนาในการสร้างทานต้องบริสุทธิ์
องค์ประกอบข้อที่ ๓ เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ (ผู้รับต้องบริสุทธิ์)


โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เก้าข้อที่กระผมกล่าวไป หากท่านนำเก้าข้อนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของท่าน จะเป็นวิธีการทำบุญที่ถูกวิธี เห็นไหมละครับการทำบุญจริงๆคือแค่ กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ก็เพียงพอแล้ว ในเก้าข้อนี้ท่านมีสักข้อรึยังครับ? หากไม่มีลองทำตามวิธีการทั้งเก้านี้ครับแล้วท่านจะรู้ว่าบุญกุศลมีจริง

ขอบคุณครับ
ชัยเสริฐกิ่งเพชร
#แชร์ส่งต่อให้เพื่อนได้ครั

#สนใจทำนายดวงชะตาติดต่อได้ช่องทางอินบล็อก
#เฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech
#เพจ https://web.facebook.com/chaiyasertkingpech9/
#กลุ่ม กลุ่มชัยเสริฐกิ่งเพชรโหราศาตร์
#ไอดีไลน์; worayano
#web http://chaiyasertkingpech.blogspot.com/